ช่วงการเสวนาต้อนรับเชฟครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก หัวข้อ “รักษาอนาคต: มุมมองว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารอย่างยั่งยืน” (Preserving the Future: Global Perspectives on Food Sustainable Heritage) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน East Meets West at Phetchaburi วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี โดยจังหวัดเพชรบุรีและภาคีเครือข่าย วิทยากรผู้เข้าร่วมเสวนาประกอบด้วยผู้แทนจากเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก รวม 6 เมือง (ต่างประเทศ 4 เมือง และประเทศไทย 2 เมือง)
การเสวนานี้เปิดโอกาสให้ผู้แทนเมืองสร้างสรรค์ได้แลกเปลี่ยนมุมมองของตน โดยผู้แทนเมืองให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารนั้นผูกพันเชื่อมโยงกับวิถีชีวิต และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ใช้ส่งต่อให้แก่คนในเมือง
ผู้แทนเมืองซุ่นเต๋อ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ชื่นชมเพชรบุรีที่ได้นำวัตถุดิบที่หลากหลายและมีความเป็นพื้นถิ่นของเพชรบุรีมาประกอบอาหาร มีพื้นที่เกษตร และพบว่ามีวัตถุดิบหลายประเภทที่ซุ่นเต๋อก็มีเช่นกัน ทั้งนี้ การรังสรรค์อาหารจากวัตถุดิบเหล่านั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะการประกอบอาหารของเชฟแต่ละคน และเมืองซุ่นเต๋อยินดีเป็นมิตรกับเมืองเพชรบุรี
ผู้แทนเมืองมาเก๊า เขตบริหารพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แนะนำตนเองว่ามีเชื้อสายอิตาเลียนและได้อยู่ที่มาเก๊ามายาวนาน ซึ่งมาเก๊าเคยอยู่ในอาณานิคมของโปรตุเกสและบัดนี้ได้อยู่ในการปกครองของจีน มาเก๊าจึงมีความหลากหลายของประเภทอาหารและสถานประกอบการด้านอาหาร รสชาติอาหารที่โดดเด่น ได้แก่อาหารรสชาติกวางตุ้ง และรสชาติโปรตุเกส ตนเองเห็นว่าการที่ประวัติศาสตร์และอาหารมีความเกี่ยวเนื่องกัน ทำให้เกิดคุณค่าในมุมของมรดกทางวัฒนธรรมเชิงอาหาร
ผู้แทนเมืองซานแอนโทนิโอ ประเทศสหรัฐเอมริกา เป็นอาจารย์สอนด้านการประกอบอาหาร และเชื่อว่าการสอนเยาวชนให้รู้รากเหง้าตัวตนของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้ตระหนักและสืบสานวิทยาการด้านอาหารได้อย่างยั่งยืนและมีอัตลักษณ์ ตนเองยินดีที่เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารได้สร้างความสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมนี้ร่วมกัน ซึ่งจะนำสู่ความเกื้อกูลกันและกันอย่างมีมิตรภาพต่อไป
ผู้แทนเมืองเบอร์กาโม ประเทศอิตาลี ได้ขอบคุณจังหวัดเพชรบุรีและเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารที่จัดกิจกรรมนี้ และเป็นการเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกของตนเอง โครงการนี้ทำให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างกัน หวังว่าจะได้ต้อนรับที่เมืองของตนในโอกาสต่อไป
ผู้แทนเมืองอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์ ได้กล่าวว่าเมืองของตนเองเป็นเมืองล่าสุดในกลุ่มผู้เสวนานี้ที่ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร ซึ่งเมืองอิโลอิโลให้ความสำคัญทั้งด้านอาหาร จิตใจของคน และชุมชน เมืองของตนเองมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เช่น มาเล จีน และสเปน โดยรสชาติของอาหารเป็นตัวแทนของเรื่องราวของประเทศ ทั้งด้านความคิดจิตวิญญาณและภูมิประเทศ นอกจากนี้ พบว่าลักษณะของตลาดสดในเพชรบุรีมีความใกล้เคียงกับที่ประเทศของตนซึ่งตนเองรู้สึกประทับใจ และวัฒนธรรมการทานอาหารร่วมกันโดยมีกับข้าวแบ่งปันกันบนโต๊ะอาหารก็เป็นลักษณะที่คล้ายคลึงกับที่ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะเมื่อทานอาหารร่วมกันกับคนในครอบครัวหรือเพื่อน รวมถึงแนวคิดการประกอบอาหารโดยใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง ทั้งนี้ ตนเองจะสาธิตการปรุงสุกโดยไม่ใช้ไฟ ในช่วงสาธิตการประกอบอาหาร โดยจะใช้ของเหลวที่ผ่านการหมัก เช่น น้ำส้มสายชู มาปรุงกุ้ง
ผู้แทนเมืองเพชรบุรี ได้ให้มุมมองว่าเพชรบุรีเป็นเมืองเก่าแก่กว่าพันปี มีสถานที่แหล่งประวัติศาสตร์ เช่น พระนครคีรี มีภูมิประเทศที่เหมาะสมกับการผลิตวัตถุดิบด้านอาหารที่หลากหลาย และยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมือง 3 วัง 3 ทะเล 3 รส โดยเฉพาะรสเด่นทั้งสามนั้นมาจากจุดเด่นพื้นถิ่น ทั้งจากตาลโตนด เกลือสมุทร และมะนาวแป้น จุดเด่นนี้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจชุมชนและการดูแลสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านได้นำวัตถุดิบพื้นถิ่นมาปรุงรสให้เกิดอาหารที่มีเอกลักษณ์และยังสานต่อภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น
ผู้แทนเมืองภูเก็ต ได้ชี้ให้เห็นความสำคัญของสุขภาพและการใช้สมุนไพรมาประกอบอาหาร จะพบโดยทั่วไปว่าอาหารพื้นถิ่นโดยมากมีการนำสมุนไพรมาปรุงประกอบ และอาหารพื้นถิ่นของภูเก็ตซึ่งมีมากกว่า 100 ชนิด ยังเกี่ยวโยงกับการดำรงชีวิต ศาสนา และความเชื่อของชาวเมือง เช่น การนำอาหารมารับขวัญเด็กแรกเกิด การมีอาหารเฉพาะในเทศกาลกินเจ และการเลี้ยงอาหารในค่ำคืนสุดท้ายก่อนพิธีณาปนกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ ตนเองเห็นว่าการสร้างสรรค์อาหารในรูปแบบที่เหมาะสมกับวิถีปัจจุบัน และการให้ความสำคัญกับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ เป็นสิ่งที่ควรคำนึง
สุดท้าย ในวาระการเสวนาที่ต่างภาษาและวัฒนธรรมนี้ ผู้ร่วมเสวนาได้แสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้ร่วมกัน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันอย่างมีมิตรภาพ
ดร.ทัดทอง พราหมณี ผู้ดำเนินรายการ
ประสานงาน 📞 086-623-3357 อินบอกซ์ 🔗 www.facebook.com/tht.farm
The panel discussion welcoming chefs from UNESCO's Creative Cites network of gastronomy, themed “Preserving the Future: Global Perspectives on Sustainable Cultural Food Heritage,” took place as part of the East Meets West at Phetchaburi event on August 21, 2025, at Phetchaburi Rajabhat University, hosted by Phetchaburi province (Phetchaburi Creative City) and network. Participants included representatives from six UNESCO Creative Cities of Gastronomy, with four from abroad and two from Thailand.
The discussion offered a platform for city delegates to share their perspectives, highlighting the deep connection between food, lifestyle, and cultural heritage that is passed down through generations. Participants emphasized that food reflects local identity and serves as a heritage to be preserved.
Delegates from Shunder, China, praised Phetchaburi’s diverse local ingredients and culinary traditions, noting similarities with their own city’s agricultural produce and culinary style. They expressed openness to collaboration and mutual exchange.
A representative from Macau, China, shared his background of Italian roots and the city’s colonial history, which contributes to its vibrant culinary scene that blends Cantonese and Portuguese flavors, underscoring the link between history and food heritage.
From San Antonio, USA, a culinary educator stressed the importance of teaching young people about their cultural roots to sustain culinary traditions and foster a shared network of creative food cities.
An Italian delegate from Bergamo expressed gratitude to Phetchaburi and its food creative network for hosting the event, marking his first visit to Thailand, and hopes for future collaborations.
A delegate from Iloilo, Philippines, highlighted Iloilo’s recent recognition as a UNESCO Creative City of Food, emphasizing the city’s diverse cultural influences and shared food markets, similar to Phetchaburi. He demonstrated cooking a fermented shrimp dish using natural ingredients without fire, showcasing local techniques.
Phetchaburi’s representative described the city’s rich history of over a thousand years and its renowned produce—sugar, salt, and limes—that reflect local culture, economy, and environmental care, passed down through generations.
Finally, a representative from Phuket touched on the importance of health and herbal ingredients in local cuisine, which are intertwined with religious practices and traditions, and stressed the need for contemporary culinary innovation and sustainable packaging.
Throughout the discussion across languages and cultures, participants demonstrated mutual learning and friendship, celebrating shared experiences in preserving food heritage.
Session moderator: Dr.Thadthong Bhrammanee
📞 +66 86-623-3357 Inbox 🔗 www.facebook.com/tht.farm
เพชรบุรีเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร | Phetchaburi, UNESCO Creative City of Gastronomy
ทองหทัยห้องปฎิบัติการสังคม เกษตรอินทรีย์ เกษตรทฤษฎีใหม่ จิตอาสา